แสดงความยินยอมการใช้คุกกี้

เว็บไซต์ของเรามีการใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การท่องเว็บที่ดียิ่งขึ้นต่อผู้ใช้ ก่อนใช้งานเว็บไซต์ของเราต่อไป คุณตกลงและยอมรับเว็บไซต์ของเรา นโยบายการใช้คุกกี้

“นวดกดจุด” แก้เบื่อเมื่อรถติด – โรงพยาบาลราชวิถี

“นวดกดจุด” แก้เบื่อเมื่อรถติด

  • -

“นวดกดจุด” แก้เบื่อเมื่อรถติด

“นวดกดจุด” แก้เบื่อเมื่อรถติด thaihealth

ฝนที่ตกในเวลานี้ ทำให้หลายคนประสบปัญหารถติด จากสภาพการจราจรที่คับคั่ง ทำให้คุณเบื่อหน่าย เครียดหงุดหงิดและวิตกกังวล ภาวะเหล่านี้ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพกายและใจ

วันนี้ทีมเว็บไซต์ สสส. เรามีท่าบริหารง่ายๆ เพื่อช่วยให้คุณคลายความปวดเมื่อยได้ แถมยังทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และจิตใจสงบ ขจัดอารมณ์ขุ่นมัวในช่วงที่รถติดไปได้

เกี่ยวกับอาการเบื่อหน่าย หงุดหงิดและเมื่อยล้า เพราะสภาพการจราจรที่ติดขัดอย่างหนัก ยามที่ฝนเทลงมานี้ “อาจารย์ชินริณี วีระวุฒิวงศ์” ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม อธิบายว่า ความเครียดเป็นภาวะของอารมณ์หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ และทำให้รู้สึกถูกกดดัน ไม่สบายใจ วุ่นวายใจ และวิตกกังวล ส่งผลให้สภาวะสมดุลของร่างกายและจิตใจเสียไป

อาจารย์ชินริณี บอกว่า ผลจากปฏิกิริยาตอบสนองที่มีต่อความเครียด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวบุคคลนั้น เกิดอาการทางกายหลายอย่างแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ตั้งแต่ปวดศีรษะ ปวดหลัง อ่อนเพลีย ขณะที่อาการด้านจิตใจของบุคคลที่เครียด จะเต็มไปด้วยการหมกมุ่นครุ่นคิด ขาดสมาธิ สูญเสียความเชื่อมั่นในความสามารถที่จะจัดการกับชีวิตของตนเอง เศร้าซึมและวิตกกังวล

“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม” แนะนำวิธีการแก้อาการเบื่อหน่าย หงุดหงิดและเมื่อยล้า ด้วยท่ากายบริหารง่ายๆ ดังนี้

คิ้วและตา

การใช้สายตาเป็นเวลานานๆ ในการจ้องและเพ่งหน้า ทำให้เกิดอาการปวดกระบอกตา โดยจะมีอาการปวดบริเวณระหว่างหัวคิ้วไปจนถึงศีรษะ ให้เริ่มจากนั่งตัวตรงแล้วใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างนวดเบาๆ บริเวณระหว่างคิ้ว หายใจปกติ แล้วค่อยๆ เลื่อนจากหัวคิ้วไล่ไปจนถึงบริเวณหางตา โดยนวด 7-8 ครั้ง ซึ่งท่านี้ช่วยกระตุ้นการมองและการคำนวณกะระยะ จากนั้นให้ใช้นิ้วนางกดเบาๆ บริเวณถุงใต้ตาไปจนถึงหางตา ทำทั้งหมด 7 รอบ รอบละ 3-5 ครั้ง โดยท่านี้จะลดรอยเหี่ยวย่นถุงใต้ตา ต่อมาให้กรอกตาไปทางด้านซ้ายขวา บนและล่าง ซึ่งลูกตายังเป็นแหล่งรวมของเส้นเลือดจำนวนมาก ท่านี้จะทำให้เลือดไหลเวียนแก้อาการสายตาล้าได้

หน้าผากและขมับ

อาการปวดที่หน้าผากและขมับ เป็นอีกส่วนที่เกิดขึ้นได้บ่อย ซึ่งความเครียดมักเป็นสาเหตุหลักของอาการนี้ ให้วางมือทั้งสองข้างบริเวณหน้าผาก แล้วใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ทำเป็นรูปตัวแอล โดยนิ้วโป้งให้กดบริเวณขมับทั้งซ้ายและขวา ส่วนนิ้วชี้ให้งอนิ้วแล้วใช้สันนิ้ว กดเบาๆ ระหว่างคิ้ว แล้วหมุนวนเป็นวงกลมทำ 3- 4 ครั้ง ประมาณ 30 วินาที

จากนั้นดึงสันนิ้วชี้ขึ้นไปถึงตีนผมแล้วลากออกไปจนถึงนิ้วโป้งที่ขมับ ทำซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง เพื่อกระตุ้นประสาทและเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองให้ดีขึ้น ซึ่งท่านี้ยังช่วยลดรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผากได้อีกด้วย

ศรีษะและคอ

กล้ามเนื้อบริเวณคอเป็นจุดที่มักปวดตึงได้บ่อยที่สุด ให้หมุนคอ เบาๆ จากนั้นให้ใช้ฝ่ามืออ้อมมาจับที่ศรีษะอีกฝั่งหนึ่ง แล้วออกแรงดึงเบาๆ ให้ศรีษะเอนพอรู้สึกตึง ทำค้างไว้พอรู้สึกสบาย จึงค่อยสลับไปทำอีกข้างหนึ่ง ซึ่งการบริหารคอจะทำให้มีเลือดมาเลี้ยงสมองมากขึ้น ซึ่งท่านี้ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระช่วย และ ช่วยป้องกันอาการของโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย

ท่าต่อมาให้ยกมือเหยียดตรงโดยให้แนบชิดหู แล้วลดมืออ้อมมานวดบริเวณข้างหลังกกหูด้านตรงข้าม โดยให้ทำสลับไปมาซ้ายและขวา ซึ่งท่านี้จะช่วยให้เลือดไปเลี้ยงที่ใบหูมากขึ้น ขณะที่การยกแขนเหยียดตรงยังช่วยให้น้ำเหลืองที่บริเวณรักแร้ไหลเวียนได้ดีขึ้น ขณะที่การยกแขนข้ามศรีษะไปกดที่หลังกกหูยังเป็นการออกกำลังกายสมองทำให้ตื่นตัวอีกด้วย

ไหล่ เอวและหลัง

ส่วนต่อคอเป็นอีกจุดหนึ่งที่เกิดอาการปวดเมื่อยได้ง่าย ให้หมุนหัวไหล่เบาๆ ไปด้านหน้าและด้านหลัง ขณะที่ส่วนเอวและหลังเป็นบริเวณกล้ามเนื้อลำตัว ที่รองรับความเครียดและน้ำหนักร่างกายไว้เต็มที่ โดยให้เริ่มจากนั่งยืดเหยียดตัว จากนั้นถูมือให้ร้อนและนวดบริเวณบั้นเอวด้านหลัง ค่อยๆ ไล่มาด้านหน้า ซึ่งบริเวณบั้นเอวยังเป็นการนวดไต ที่คอยกรองของเสียจากร่างกาย และยังดูแลในเรื่องของอารมณ์

ดังนั้นคนที่เครียดหงุดหงิดเครียดง่าย การนวดไตสามารถช่วยผ่อนคลายได้ โดยให้นวดทั้งหมด 3 รอบ รอบละ 7 ครั้ง ซึ่งการนวดลักษณะนี้เกี่ยวข้องกับต่อมหมวกไตที่สัมพันธ์กับต่อมใต้สมอง จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดของไตให้เป็นผู้ที่มีสุขภาพดี

ลองนำเคล็ดลับการบริหารที่แนะนำไปปรับใช้ พร้อมกับทำจิตใจให้แจ่มใส เชื่อว่าต่อให้รถติดแค่ไหน เราก็สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างสบาย

เรื่องโดย : นายฉัตร์ชัย นกดี team content www.thaihealth.or.th

Please follow and like us:

ข่าวสารและกิจกรรมล่าสุด

Accessibility