แสดงความยินยอมการใช้คุกกี้

เว็บไซต์ของเรามีการใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การท่องเว็บที่ดียิ่งขึ้นต่อผู้ใช้ ก่อนใช้งานเว็บไซต์ของเราต่อไป คุณตกลงและยอมรับเว็บไซต์ของเรา นโยบายการใช้คุกกี้

แนะผู้ป่วยเบาหวานกินปลา ชี้ให้คุณค่าอาหารสูง – โรงพยาบาลราชวิถี

แนะผู้ป่วยเบาหวานกินปลา ชี้ให้คุณค่าอาหารสูง

  • -

แนะผู้ป่วยเบาหวานกินปลา ชี้ให้คุณค่าอาหารสูง

แนะผู้ป่วยเบาหวานกินปลา ชี้ให้คุณค่าอาหารสูง thaihealth

กรมควบคุมโรค แนะผู้ป่วยเบาหวาน ควรหันมาให้ความสำคัญกับอาหารประเภทปลา ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารมาก ซึ่งทั้งในปลาน้ำจืดและปลาทะเล

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งจาก กรมควบคุมโรค ว่า เบาหวานโรคอันดับต้นๆ ที่คนไทยเป็นกันมาก และเป็นโรคที่ต้องดูแลเอาใจใส่ในเรื่องการบริโภคอาหารเป็นสำคัญ ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าคนปกติ ต้องควบคุมอาหารและน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ผู้ป่วยเบาหวาน ควรหันมาให้ความสำคัญกับอาหารประเภทปลา ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารมาก ไม่ทำให้อ้วน และราคาไม่แพงอีกด้วย

ปลาเป็นหนึ่งในอาหารที่มีโคเรสโตรอลต่ำ ย่อยง่าย และเนื้อปลาเป็นโปรตีนคุณภาพดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสมอง นอกจากเนื้อปลาแล้ว ไขมันปลาก็ยังมีประโยชน์ เป็นแหล่ง โอเมก้า – 3 ที่หลายคนคิดว่ามีแต่ในปลาทะเลเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วมีอยู่ทั้งในปลาน้ำจืดและปลาทะเล โดยโอเมก้า – 3 จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ที่เป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน

สำหรับการเลือกบริโภคปลาจะต่างจากการเลือกเนื้อสัตว์อื่นๆ โดยการเลือกซื้อเนื้อหมูหรือเนื้อสัตว์อื่นๆ เราจะเลือกที่มีมันน้อยๆ แต่ถ้าเราเลือกปลาเราต้องเลือกที่ตัวใหญ่ๆ มีไขมันมาก เพราะไขมันเหล่านั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น ส่วนชนิดของปลาที่ให้ประโยชน์มากที่สุดคือ ปลาสวาย มีโอเมก้า 3 สูงถึง 2,570 มก. ต่อน้ำหนัก 100 กรัม ซึ่งมากกว่าปลาทะเล จึงอยากแนะนำให้หันมาบริโภคปลาน้ำจืดในบ้านเรา เพราะมีราคาถูกแต่มีคุณประโยชน์ที่สูง แถมช่วยลดการบริโภคปลานำเข้า ที่คุณค่าทางอาหารจะลดลงไปเมื่อถูกแช่แข็ง และที่สำคัญยังไม่พบการแพ้ปลาน้ำจืด เหมือนกับปลาทะเลอีกด้วย ส่วนการปรุงเมนูปลาที่มีคุณประโยชน์ที่สุดอยู่ที่การต้มหรือนึ่ง ที่จะทำให้ได้คุณค่าทางอาหารอย่างครบถ้วนที่สุด โดยให้หลีกเลี่ยงเมนูทอดให้มากที่สุด ทั้งนี้ควรมีการบริโภคอาหารที่มีเมนูปลาอย่างน้อย 2 มื้อต่อสัปดาห์ แต่หากบริโภคได้ทุกวันก็จะดีที่สุด

ที่มา : https://www.thaihealth.or.th

Please follow and like us:

ข่าวสารและกิจกรรมล่าสุด

Accessibility