แสดงความยินยอมการใช้คุกกี้

เว็บไซต์ของเรามีการใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การท่องเว็บที่ดียิ่งขึ้นต่อผู้ใช้ ก่อนใช้งานเว็บไซต์ของเราต่อไป คุณตกลงและยอมรับเว็บไซต์ของเรา นโยบายการใช้คุกกี้

ใส่หน้ากากอนามัย เลี่ยงมลพิษหมอกควัน – โรงพยาบาลราชวิถี

ใส่หน้ากากอนามัย เลี่ยงมลพิษหมอกควัน

  • -

ใส่หน้ากากอนามัย เลี่ยงมลพิษหมอกควัน

ใส่หน้ากากอนามัย เลี่ยงมลพิษหมอกควัน thaihealth

“กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข” ติดตามสถานการณ์หมอกควันและเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชนในภาคเหนืออย่างใกล้ชิด พร้อมเตือนกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์ ควรสวมหน้ากากอนามัยหากจำเป็นต้องอยู่กลางแจ้งหรืออยู่นอกอาคาร เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ รวมถึงแนะนำประชาชนในพื้นที่เสี่ยงติดตามข่าวสารจากหน่วยงานทางราชการอย่างใกล้ชิด

นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ทำให้สภาพอากาศในช่วงนี้ร้อนและแห้งแล้งมากขึ้น จึงอาจส่งผลให้เกิดไฟป่าได้ง่าย ประกอบกับมีการลักลอบเผาในที่โล่ง ดังนั้นปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือจึงยังเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบน จากการรวบรวมข้อมูลของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 จ.เชียงใหม่ พบว่า วันที่ 6 มีนาคม 2560 มีพื้นที่ในภาคเหนือที่มีค่าเฉลี่ยหมอกควันเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ 2 พื้นที่ในจังหวัดลำปางคือ ต.พระบาท อ.เมือง และ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ โดยพบปริมาณค่าฝุ่นละอองในอากาศ 158 และ 169 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ

นอกจากนี้ หลายจังหวัดภาคเหนือเริ่มมีหมอกควันกระจายในบางพื้นที่ โดยพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเนื่องจากมีปริมาณหมอกควันมากคือ พื้นที่ใน อ.เมือง จ.ลำพูน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน อ.เมือง จ.พะเยา และ อ.เมือง จ.แพร่

นายแพทย์เจษฎา กล่าวต่อไปว่า ค่าฝุ่นละอองในอากาศ หากมีค่ามากกว่า 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกอาคารเป็นเวลานาน ปิดประตูหน้าต่างไม่ให้ควันไฟหรือหมอกควันเข้าในอาคาร โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบทางสุขภาพง่ายกว่าคนทั่วไป คือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอด หอบหืด ภูมิแพ้ เป็นต้น กลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์ หากจำเป็นต้องอยู่นอกอาคารควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการสูดละอองหมอกควันเข้าปอด

สำหรับอันตรายของฝุ่นละอองหมอกควันที่เกิดจากการเผาป่า เผาขยะ เผาวัชพืช ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความเสี่ยงป่วยจาก 4 กลุ่มโรค ได้แก่ 1.โรคทางเดินหายใจ 2.โรคหัวใจและหลอดเลือด 3.โรคตาอักเสบ และ 4.โรคผิวหนังอักเสบ จากรายงานผลการเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพจากปัญหาหมอกควันใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน (เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลําปาง ลําพูน พะเยา แพร่ และน่าน) ตั้งแต่เดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ 2560 มีรายงานผู้ป่วยใน 4 กลุ่มโรคที่เฝ้าระวังจำนวนทั้งสิ้น 51,612 ราย โดยกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดมีจำนวนผู้ป่วยสูงสุด อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบผู้ป่วยสูงผิดปกติใน 4 กลุ่มโรคดังกล่าว

ทั้งนี้ ผลกระทบของหมอกควันต่อสุขภาพจะขึ้นกับระยะเวลาการสัมผัส อายุ ความต้านทานแต่ละบุคคล ความเข้มข้นของมลพิษ ประวัติการป่วยเป็นโรคปอดหรือโรคหัวใจและอื่นๆ โดยอาการป่วยเริ่มตั้งแต่ขั้นเล็กน้อยจนถึงรุนแรง กลุ่มเสี่ยงจึงควรเฝ้าระวังสุขภาพอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้บ้านทันที

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค มีการเฝ้าระวังสถานการณ์สุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง โดยมีการเตรียมทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) พร้อมลงพื้นที่ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบทันที รวมถึงมีการประสานงานกับหน่วยงานในทุกภาคส่วนเพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาหมอกควันร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต้องหมั่นติดตามรับฟังข่าวสารและข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความเข้าใจและปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง รวมถึงมีการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม

กรมควบคุมโรค ขอแนะนำวิธีการป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากหมอกควัน โดยปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิด หมั่นทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก และสวมหน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆปิดปากและจมูกและเปลี่ยนทุกวัน ส่วนกรณีที่ขับขี่ยานพาหนะในช่วงที่มีหมอกควันมาก ทัศนะวิสัยไม่ดี ควรเปิดไฟ หน้ารถ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 

ที่มา : เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข

Please follow and like us:

ข่าวสารและกิจกรรมล่าสุด

Accessibility