รู้จักโรค “ฮีโมฟีเลีย”
ที่มา: www.siamrath.co.th
โรคเลือดออกง่ายฮีโมฟีเลียพบเมื่อ 2,000 ปีก่อนและเป็นที่รู้จักกันว่าโรคที่สืบทอดทางสายเลือด อุบัติการณ์ของโรคนี้ในประเทศไทยเท่ากับ 1 ต่อ 13,000 ของประชากร
ฮีโมฟีเลียมี 2 ชนิด คือ โรคฮีโมฟีเลีย เอ เกิดจากการขาดปัจจัยการแข็งตัวของเลือดที่มีชื่อเรียกว่า แฟคเตอร์แปด และโรคฮีโมฟีเลีย บี มีอาการแสดงและการสืบทอดโรคทางพันธุกรรมเหมือนกัน
แต่โรคฮีโมฟีเลีย เอ พบได้บ่อยกว่าโรคฮีโมฟีเลีย บี ถึง 5 เท่า ผลของโรคทั้ง 2 ชนิด ทำให้เลือดแข็งตัวช้าและเลือดออกภายในร่างกาย
ส่วนความรุนแรงของโรค แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่
1.รุนแรงมาก คือ มีแฟคเตอร์ต่ำกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ผู้ป่วยจะมีเลือดออกในข้อหรือกล้ามเนื้อได้เอง โดยไม่ได้รับอุบัติเหตุหรือมีอะไรมากระทบกระทั่ง
2.รุนแรงปานกลาง มีระดับแฟคเตอร์ 1-5 เปอร์เซ็นต์ ผู้ป่วยจะมีเลือดออกในข้อและกล้ามเนื้อเมื่อได้รับอุบัติเหตุ เพียงเล็กน้อย หรือมีอะไรกระแทก
3.รุนแรงน้อย มีระดับแฟคเตอร์ 5-40 เปอร์เซ็นต์ ผู้ป่วยในระดับนี้อาจจะไม่มีอาการ แต่จะมีเลือดออกมากเมื่อได้รับอุบัติเหตุหรือผ่าตัด หรือถอนฟัน
ผู้ป่วยโรคเลือดออกง่ายฮีโมฟีเลีย จะมีลักษณะที่สังเกตได้ง่าย เมื่อลูกมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป จะมีอาการเป็นจ้ำใหญ่ๆ อยู่บ่อย ๆ
เมื่อเกิดกระทบกระเทือนเล็กๆ น้อยๆ หากเป็นแผล ก็จะเลือดออกง่าย หยุดยาก และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม มักจะเสียชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก
ดังนั้น จึงต้องให้ผู้ป่วยตระหนักรู้ว่าตัวเองเป็นโรค และต้องปรับการใช้ชีวิตให้เหมาะสม ควบคู่ไปกับการรับแฟคเตอร์เข้มข้นตามคำแนะนำของแพทย์